หมายเหตุ: รีวิวนี้อ้างอิงจากการใช้งานเกมบนเครื่องเล่น PlayStation 5 ประสบการณ์ของผู้ใช้อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาTekkenได้พิสูจน์ตนเองในฐานะเกมต่อสู้รูปแบบสามมิติที่ได้รับความนิยมสูงสุดการันตีด้วยยอดจำหน่ายรวมทุกภาคกว่า 50 ล้านชุด ซึ่งเสน่ห์ของเกมนอกเหนือจากระบบการเล่นแล้วเนื้อหาก็เป็นจุดเด่นเช่นกันเพราะบอกเล่าเรื่่องราวมายาวนานจนถึงภาค 8 กันแล้ว ดังนั้นไม่น่าแปลกใจครับที่จะมีผู้ให้การติดตามมายาวนานต่อเนื่องทั้งสายเนื้อเรื่องและสายแข่งขันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
โดยวันนี้เองThisIsGame Thailandก็ไม่พลาดได้รับโอกาสจากBANDAI NAMCO EntertainmentในการรีวิวเกมTekken 8เพื่อนำความประทับใจมาแบ่งปันกันด้วย และจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นก็ขอเชิญติดตามได้เลย แต่ขอแง้มไว้ก่อนว่าเป็นภาคที่ชวนให้ขนลุกมากๆ เพราะ Tekken 8 ได้กลับมาทวงความยิ่งใหญ่กันแบบเหนือชั้นชนิดที่ไม่ได้รับความรู้สึกแบบนี้มานานโขเลยครับ
Heat! เกมเพลย์เน้นย้ำการมุ่งหน้าแลกหมัดกัน
เกมเพลย์ยกระดับจากเกมภาคที่แล้วด้วยระบบใหม่อย่าง Heat โดยผู้เล่นจะมีเกจรองอยู่ด้านล่างขีดพลังชีวิตที่สามารถกดปุ่มใช้งานระหว่างต่อสู้ได้ เมื่อทำการใช้งานแล้วผู้เล่นจะระเบิดพลังออกมาได้ในเวลาจำกัด และจะมีท่าโจมตีที่ตีทะลุการ์ดได้ ก่อนที่จะกดปุ่ม R1 เพื่อใช้ท่า Heat Smash อันรุนแรง ทั้งนี้หากปล่อยพลาดก็จะไม่สามารถใช้ได้จนกว่าจะถึงรอบต่อไป และถ้ากดใช้ปุ๊บ ช่วง Heat จะหายไปทันที
ในส่วนของ Rage ยังคงมีอยู่ในช่วงที่เรามีพลังชีวิตอยู่ในจุดอันตรายระหว่างนี้ดาเมจที่เราตีศัตรูจะแรงขึ้น และยังมี Rage Arts ให้ใช้เป็นท่าไม้ตายเหมือนเดิม สังเกตให้ดีแล้วเกมมีการปลุกเร้าให้ผู้เล่นรู้สึกต้องการที่จะเข้าต่อสู้ตลอดเวลา และลดการออกห่างลง นั่นหมายความว่าเกมเพลย์ก็จะมีความเร็วและแลกหมัดกันได้แบบสมน้ำสมเนื้อมากขึ้น ขณะเดียวกันหากเราโดนโจมตีขณะตั้งการ์ด พลังชีวิตก็จะมีหลอดสีขาวเพิ่มเข้ามาเพื่อให้มีโอกาสฟื้นตัวเหมือนกันครับ
สิ่งที่สำคัญก็คือ Special Style ซึ่งเป็นแบบบังคับใหม่ที่ให้ทุกคนสนุกกับเกมได้มากขึ้นเพราะเพียงแค่เรารัวปุ่มใดๆ ก็จะเป็นคอมโบเอง โดยจะพบว่ามีการระบุให้ชัดเจนว่าปุ่มไหนทำหน้าที่อะไร เช่น X ที่เป็นท่าสำหรับเริ่มตีให้ศัตรูลอยขึ้นสู่อากาศ และกดปุ่มอื่นตามทำคอมโบ Juggle อันเป็นเสน่ห์ของเกมนี้กันได้เลย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นใหม่หรือเก่าก็สามารถต่อสู้กันได้แบบไม่มีกำแพงหรือเส้นแบ่งของความแข็งแกร่งคอยกั้นอีก
เนื้อเรื่องสุดเข้มข้นชวนให้ติดตาม
ความน่าสนใจก็คือ Tekken 8 นำเสนอคอนเซปต์ของโหมดเนื้อเรื่องเป็นหลักในเกมภาคนี้ด้วยโหมด The Dark Awakens ที่ผู้เล่นจะได้พบกับบทสรุปความแค้นของ Jin และ Kazuya ในสังเวียนที่จะชี้ชะตากรรมของโลก จุดนี้มีการอัปเกรดจากเนื้อเรื่องของภาคที่แล้วเป็นอย่างดีด้วยการแบ่งแชปเตอร์และสลับระหว่างคัตซีนกับฉากต่อสู้ได้อย่างลงตัว อีกทั้งไม่กระโดดข้ามเวลาไปมาเหมือนเนื้อเรื่องในภาค 7 ดังนั้นผู้เล่นจึงสามารถโฟกัสกับเหตุการณ์ในเกมได้แบบเต็มที่ นอกจากนี้คัตซีนทั้งหมดจะเป็นโมเดลที่แสดงผลเรียลไทม์แบบในเกมเลยจึงทำให้ประสบการณ์ที่ได้รับนั้นเหมือนกับดูหนังดีๆ เรื่องหนึ่ง
ในส่วนของแก่นเรื่องถูกบอกเล่าได้แบบตรงไปตรงมาและโฟกัสที่ Jin เป็นหลัก เช่นเดียวกับพรรคพวกของเขาและอีกฝั่งก็คือกลุ่ม Kazuya ที่ต้องการจัดการแข่งขันสังเวียนหมัดเหล็กครั้งใหม่ ทั้งนี้แรงจูงใจของตัวเอกที่จะโค่นล้มพ่อของตัวเองเห็นแล้วรู้สึกว่ามันก็กำปั้นทุบดินไปสักนิด ไม่มีซิกแซกอะไรมากเท่าไร แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเกมต่อสู้ไม่ได้อาศัยมิติเนื้อหาเชิงลึก มุมหนึ่งมันดีที่เข้าใจง่าย แต่ก็กลายเป็นว่าขาดมิติไปเลย ตรงนี้ไม่ถือว่าเสียอรรถรส เพียงแค่มองว่ามันไม่ต้องมีอะไรค้นหา ต่อยกันให้มันจบๆ จริงๆ (ฮา) อีกทั้งยังมีส่วนที่ควรสามารถนำมาใช้เล่าได้แต่ก็ไม่เล่าให้ชัดเจนดังนั้นคำถามที่หลายคนสงสัยก็เลยไม่มีคำตอบที่ 100% แม้จะเล่นจนจบ กระนั้นด้วยภาพการต่อสู้ที่ดุเดือด และอนิเมชันกับเสียงพากย์ระดับเดียวกับภาพยนตร์ ก็ช่วยให้เกิดความรู้สึกอลังการงานสร้าง และกลบส่วนนี้ไปได้บ้างครับ
เข้าสู่โลกของการเล่นเกม Tekken ใน Arcade Quest
เป็นอีกหนึ่งโหมดที่มองข้ามไม่ได้ครับสำหรับ Arcade Quest ที่หลายคนอาจมีโอกาสได้ทดลองเล่นกันในช่วงเบตาเมื่อปีที่แล้ว โดยผู้เล่นจะต้องสร้างอวาตาร์ขึ้นมาเพื่อเข้าสู่แคมเปญเนื้อเรื่องใหม่ ส่วนนี้จะไม่ใช่เรื่องราวในโลกของ Tekken แต่ผมมองว่าเป็นการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของเกมโอกาสครบรอบ 30 ปีพอดิบพอดี พาเราย้อนไปถึงยุคของเกมตู้ที่ทุกคนสามารถสนุกกันได้ที่ร้านเกม สร้างชื่อเสียงในฐานะนักสู้ประจำถิ่น เก็บ EXP ไปเรื่อยๆ สู่เวทีการแข่งขันในระดับโลก
ความดีงามของโหมดนี้นอกเหนือจากว่าจะมีของเล่นให้ปลดล็อกจำนวนมากก็คือผู้เล่นมือใหม่ที่ไม่ถนัดเล่นเกมมาก่อนได้เรียนรู้วิธีการเล่นด้วย ซึ่งสังเกตว่าลงรายละเอียดไปถึงว่าปุ่มต่อย เตะนั้นมีความสำคัญอย่างไร และหัวใจหลักของเกมเพลย์ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ดังนั้นหากใครที่ไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนแล้วมาลองเล่น Arcade Quest เลยก็ยิ่งเหมาะเพราะ NPC พรรคพวกของเราก็คือโค้ชดีๆ ที่ทำให้เราปรับพื้นฐานกันได้อย่างรวดเร็วครับ อีกทั้งเมื่อจบเกมจะได้เข้าถึงโหมด Ghost Battle ที่บันทึก AI ของผู้เล่นทั่วโลกรวมไปถึงทีมงาน ไว้ฝึกฝนเองได้ด้วย
ฟีเจอร์แน่นๆ จัดเต็มในทุกมิติ
ภายในเกมยังมาพร้อมกับโหมดการเล่นอื่นๆ อย่าง Character Episode ที่เป็นเนื้อเรื่องแยกรายตัวละครให้ด้วย ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเล่นโหมด Arcade สมัยก่อนจนจบแล้วมีคัตซีน และโหมดตกแต่งตัวละครก็ยังมีให้ใช้เหมือนเดิม แต่สิ่งของที่เลือกสวมใส่ได้นั้นอาจจะไม่หลากหลายเท่ากับภาคที่แล้ว ทว่าก็มีพาร์ตให้เลือกค่อนข้างหนาตาเหมือนกันครับ และใครที่อยากจะคลายเครียดก็มี Tekken Ball ให้เล่นเช่นกัน โหมดนี้หายไปนานมากตั้งแต่ภาค Tag 2 บน Wii U เลย แต่สำหรับภาคหลักแล้ว เป็นการกลับมาครั้งแรกนับตั้งแต่ภาค 3
เมื่อเกมเปิดให้บริการ แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือโหมดออนไลน์ ทั้งนี้เนื่องจาก ณ เวลาที่เขียนรีวิวยังไม่ได้มีการเปิดใช้งานจึงไม่สามารถนำประสบการณ์ส่วนนี้มาฝากกัน แต่สำหรับโหมดออนไลน์จะมี Lounge ที่ให้อวาตาร์ของเราสามารถพบปะกับผู้เล่นอื่นทั่วโลก รวมไปถึงรองรับโหมดการเล่นรูปแบบ Cross-platform บู๊กันได้ทั้งบน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC เลยครับ
กราฟิกและเพลง
เกมได้รับการพัฒนาด้วย Unreal Engine 5 จัดเต็มด้วยคุณภาพโมเดลระดับสูงที่สวยงามกว่าเดิม โดยจุดเด่นก็คือเกมมีการโฟกัสเพื่อประสบการณ์การเล่นบนคอนโซลและ PC โดยเฉพาะ แตกต่างจากภาคก่อนหน้าที่พอร์ตมาจากตู้อาร์เคดที่มีแรงประมวลผลสูงกว่า ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะเจอดาวน์เกรดเพราะทุกอณูของเกมนี้ถูกสร้างสรรค์มาให้ผู้เล่นได้สนุกกันเต็มที่ ส่วนเพลงประกอบยังคงเป็นอิเล็กโทรเช่นเคย ใครที่ชอบเพลงประกอบในรูปแบบภาค 7 น่าจะชอบกัน ทว่าก็แอบเสียดายที่ไม่ค่อยมีเพลงแบบไอคอนิกเหมือนยุคเก่าๆ มา แต่ก็พอเข้าใจว่าประสบการณ์เสียงส่งผลต่อการต่อสู้จึงต้องใช้เพลงเร็วเพื่อให้เลือดสูบฉีด
บทสรุป
ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือ ‘จุดสูงสุดของ Tekken’ ไม่ว่าจะด้วย Easter Egg ที่ใส่เข้ามาเพื่อเชิดชูความยิ่งใหญ่ เนื้อเรื่องที่ชวนลุ้นแบบไม่มีจังหวะนั่งหาว และไลน์อัปตัวละครนักสู้ที่ทรงพลังมากที่สุดในรอบหลายปี แม้จะมีเพียง 32 นักสู้เริ่มต้น ทว่าสัดส่วนตัวละครจากภาคต่างๆ ก็เหมาะสมและหลากหลายไม่ซ้ำแบบ ตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงที่ได้เล่นเกมนี้ไป รู้ตัวอีกทีสิ่งที่ได้รับก็คือความรู้สึกตื่นเต้นแบบ Tekken 3 ที่หายไปนานมากจนตอนนี้มันได้กลับมาอยู่ในมือที่กำลังบดขยี้จอยเกมอย่างเมามันส์นั่นเอง!
หากใครเป็นแฟนเกมของTekkenอยู่แล้วขอบอกเลยว่าภาคนี้เป็นภาคที่จะเติมเต็มความมันส์หลังจากโบกมือลาภาค 7 กันได้เป็นอย่างดีด้วยปริมาณคอนเทนต์ที่อัดแน่นและยังเป็นประสบการณ์เน็กซ์เจ็นเต็มรูปแบบครั้งแรกของซีรีส์ด้วย ซึ่งตัวเกมTekken 8จะมีกำหนดวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 26 มกราคมนี้ ทั้งบน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC พร้อมการรองรับคำบรรยายภาษาไทย แล้วพบกันในสังเวียน!
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่ BNEAs’ e-store :[คลิก]และตัวแทนจำหน่ายในไทย
Bandai Namco Entertainment Tekken TEKKEN 8